Diablo III

diablo_3_wallpaper_1920x1080_by_chipinators-d3f7bed

ประวัติ Diablo III

บทที่ 1 บทเริ่ม…ณ อดีตอันไกลโพ้น
นานมาแล้วก่อนการกำเนิดของ Sanctuary(โลกที่มนุษย์อยู่และพื้นที่ในเกมส์ที่เราเ ล่น) ยังมีการคงอยู่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือเหล่าเทพแห่งสวรรค์ตัวแทนแห่งคุณความดีทั้ งหลายปกครองโดยเหล่า เทวทูตชั้นสูงทั้ง 6 คน
Auriel เทวทูตหญิงคนเดียวในคณะ และเป็นเทวทูตแห่งความดีงามความอ่อนโยนแต่งกายในผ้าค ลุมสีน้ำเงิน(อาจจะเคย มีความสัมพันธ์บางอย่างกับ Mephisto ไว้ว่างๆจะมาเล่าอีกที)
Imperias เทวทูตแห่งสงครามแต่งกายในเกราะแดงเพลิง
Malthael แต่งกายในผ้าคลุมและเกราะสีดำเข้มดุจรัตติกาล เป็นเทวทูตแห่งความตาย
Ithrael แต่งกายในชุดเทาเป็นเทวทูตแห่งความเป็นกลาง มีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นทั้งชายและหญิง – -“
Tyrael เทวทูตแห่งความยุติธรรม เป็นเทวทูตตนเดียวที่เคยโผล่มาในเกมส์แฟนน่าจะคุ้นเค ยกับลักษณะดีแล้ว…. และคนสุดท้ายผู้มาบทบาทสำคัญมากในจักวาลแห่ง Diablo ก็คือ Inarius เทวทูตชาย…..รูปงามผู้แสนใจภูมิใจในความหล่อของตน. .
เหล่าปีศาจร้ายแห่งเปรวเพลิงแห่งนรก ในนรกนั้นมี7จอมปีศาจ โดยแบ่งออกเป็น 3 จ้าวอสูร
Mephisto เจ้าแห่งความเกลียดชัง พี่ใหญ่สุดในสามพี่น้องจ้าวอสูร
Baal เจ้าแห่งการทำลายล้าง
และ พระเอกของเรื่องนี้ Diablo เจ้าแห่งความกลัว (the Lord of Terror )น้องเล็กและเป็นเจ้าอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในทั้งสา มเจ้าอสูร นอกจาก3เจ้าอสูรแล้วก็มีอีก 4 จอมอสูรผู้ปกครองรองลงมา
Duriel เจ้าแห่งความเจ็บปวด บอสใน Act 2 ของDiablo 2ที่เป็นตัวแมลงใหญ่ๆ อ่ะแหละ Andarieal สาวน้อยแห่งความทุกข์ บอสสาวแสนSexyใน act 1 นั่นเอง
Berial เจ้าแห่งการหลอกลวง และ Azmodan เจ้าแห่งบาป
นอกจากจอมปีศาจทั้ง7 แล้วก็มีปีศาจที่สำคัญๆตนอื่นอีกมากนะครับ ยกตัวอย่างเช่น Lilith ราชีนีแห่ง Succibi Lilith นั้นเป็นลูกสาวของ Mephisto และเธอยังเป็นแม่ของ Andariel อีกด้วยครับ นอกจากนั้น Lilith ยังมีบทบาทที่สำคัญมากๆอีกต่อไปด้วย Lucion ลูกชายอีกคนของ Mephisto ครับ
ทั้งสองฝ่ายนั้นทำการต่อสู้และก่อสงครามกันมาเป็นระย ะเวลายาวนานนนนมาก โดยก็ไม่สามารถเกิดผลตัดสินเด็ดขาดกันได้จนทั้งสองฝ่ ายเรียกสงครามครั้งนี้ ว่า Eternal war สงครามนิรันด์ทำให้มีทั้งเทวดาและปีศาจบางตนเกิดความ เบื่อหน่ายกับสงคราม ครั้งนี้ นำโดย เทวทูตInarius Inarius จึงได้รวบรวมเหล่าเทวทูตแหละปีศาจทั้งหลายที่เบื่อหน ่ายต่อสงครามพร้อมกับ Lilith คู่รักของคน (lilithและ inarius เป็นคนรักกันครับ) หนีออกจากสวรรค์และนรกและเริ่มการสร้างดินแดนแห่งใหม ่ ดินแดนที่มีแต่สันติสุขและความสงบ สวรรค์ในอุดมคติที่ซึ่งทั้งปีศาจและเทวดาสามารถอยู่ร ่วมกันได้ และตั้งชื่อดินแดนแห่งนี้ว่า Sanctuary ……

บทที่ 2 กำเนิด Sanctuary และมหาสงครามแห่งบาป
หลังจากที่ Inarius Lilith แหละเหล่าผู้ติดตามทั้งหลายได้ช่วยกันสร้างดินแดนแห่ ง Sanctuary ขึ้นมาแล้วนั้น Inarius นั้นไม่ต้องการให้เหล่าเทวทูตแหละปีศาจที่เหลือ ล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของ Sanctuary จึงได้สร้าง World stone ขึ้นมาเพื่ออำพรางปกปิดให้เทวทูตและปีศาจไม่สามารถรั บรู้ถึงการมีอยู่ของ Sanctuary
หลังจากนั้นเหล่าปีศาจและเทวทูตทั้งหลายก็ได้ให้กำเน ิดลูกหลาน เชื้อสายของตนออกมา (ในนิยายบอกไว้ว่าไม่ได้มีSexกันแต่มีความสัมพันธ์กั นยังไงก็ไม่ได้บอกไว้) (Lilith และ Inarius มีลูกด้วยกันคือ Rathma และ Rathma นี้เองเป็นผู้เผยแพร่คำสอนให้แก่เหล่า Necromancer ไว้มีโอกาสหรือแฟน Necro ต้องการจะมาเล่าอีกที)
เหล่าบุตรของปีศาจและเทวทูตทั้งหลายเหล่านี้มีชื่อว่ า Nephalem หรืออีกชื่อคือ บุตรแห่ง Sanctuary เหล่า Nephalem นั้นมีความสามารถสูงมาก สูงจนกระทั่งมีความเก่งกาจเหนือแม้กระทั่งเทวทูตและเ หล่าปีศาจที่ให้กำเนิด ตน ทำให้ lilith นั้นมีความต้องการที่จะนำเหล่า nephalem ไปใช้ในการสงครามและคิดตั้งตนเองขึ้นเป็นนายใหญ่แห่ง เหล่ากองทัพ Nephalem และนำทัพเข้าต่อสู่กับกองทัพแห่งสวรรค์ เนื่องจากไม่มีใครสามารถต่อกรกับเหล่า Nephalem ได้ไม่ว่าจะทั้งเทวทูตหรือปีศาจ
แต่ Inarius นั้นเบื่อหน่ายกับการต่อสู้และต้องการให้เหล่า Nephalem บูชาตนเองเป็นดังเช่นเทพเจ้าสูงสุด มิได้มีความต้องการนำเหล่าNephalem เข้าสู่สงคราม เมื่อความเห็นไม่ตรงกันจากคู่รักก็กลายเป็นคู่แค้น Inarius และ Lilith เข้าห่ำหั่นกันการต่อสู่นั้นจบลงที่ความพ่ายแพ้ของ Lilith และ Inarius เข้าใจว่าอดีตคนรักของตนนั้นได้ตายไปแล้ว….
หลังจบการต่อสู้ Inarius คิดว่า หากปล่อยไว้แบบนี้เหล่า Nephalem ย่อมต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและอาจ เกิดปัญหาภายหลัง จึงได้ทำการทำให้ World Stone นั้นมีพลังที่จะทำให้เหล่า ลูกหลานของ Nephalem ที่จะเกิดออกมาในแต่ละรุ่น มีพลังลดลง และตามสังหารเหล่า Nephalem รุ่นแรกที่มีพลังทั้งหลายซะ รวมถึงบุตรชายแท้ๆของ ตน Rathma หลังจากนั้นเหล่าบุตรหลานของ Nephalem ก็ใช้ชีวิตอยู่ใน Sanctuary อย่างสงบสุขโดยไม่รู้ถึงอดีตและชาติกำเนิดของตนเองแล ะเรียกตัวเองว่า มนุษย์……นั่นเอง
กาลเวลาผ่านพ้นไปเหล่าเทวทูตและปีศาจทั้งหลายหายไปจา กหน้า ประวัติศาสตร์ของมนุษย์
วันหนึ่ง.. Uldyssian ชาวนาธรรมดาคนหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าสังหารสมาชิกของ Cathedral of Light (Cathedral of Light คือลัทธิซึ่งบูชา Inarius และ Inarius เป็นผู้ก่อตั้ง) หลังจากนั้น Uldyssian ได้ค้นพบพลังของตัวเองพลังซึ่งไม่ควรจะมีอยู่ในมนุษย ์ธรรมดาและนี่คือจุด เริ่มต้นของมหาสงครามแห่งบาป สงครามซึ่งจะเปลี่ยนแปลง ทั้ง สวรรค์ นรก และ โลกแห่ง Sanctuary ไปตลอดกาล… โปรดติดตามตอนต่อไป
ครับหลังจากตรงนี้จะเป็นเนื้อเรื่องซึ่งเป็นนิยายถึง 3 เล่ม ติดต่อกัน ไม่รู้ว่าจะเล่าแบบละเอียดหรือผ่านๆดี เพราะว่ามีแต่ตัวละครที่น่าจดจำและเรื่องสนุกๆเกิดขึ ้นมากมายเลย เอาเป็นว่าผมจะพยายามเล่าให้กระชับไม่น่าเบื่อที่สุด ล่ะกันนะครับ ใครมีตรงไหนสงสัยหรืออยากทราบอะไรก็ถามได้นะ เพราะ เนื้อเรื่อง Diablo เนี่ยยาวแล้วก็มีตอนย่อยๆอีกเยอะมากเลยครับ หลังจากอ่านจบตอนนี้นั้นเพื่อนๆก็คงจะรู้แล้ว ว่า มนุษย์เรานั้นครั้งหนึ่งก็มีเชื้อสายปีศาจอยู่ในตัวน ะครับน่าจะนับได้ว่า เป็นญาติห่างๆกับ Diablo ไว้พบกันใหม่ครับ เร็วๆนี้

บทที่ 3 เริ่มต้นมหาสงครามแห่งบาป มหาลัทธิที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองและเหล่าปีศาจในความมืด
ณ ตอนนั้นเองบนโลกมนุษย์นั้นได้เกิดการก่อตั้งของลัทธิ ขึ้นมาสองลัทธิ ลัทธิแรกก็คือ Cathedral of Light มีผู้นำคือ the prophet บูชาเทวทูต Inarius และอีกลัทธิหนึ่งก็คือ Church of Triune ซึ่งสอนเหล่าผู้รับถือเกี่ยวกับมหาวิญญาณอันยิ่งใหญ่ ทั้ง 3 อันได้แก่ Mefis, Dialon and Bala เมฟิส ดีอาลอน และ บาลา
(แน่นอนครับไอ้3ตัวนี้ก็คือ mephisto Diablo และก็ Baal นั่นเอง) มีผู้นำลัทธิคือ Primus เป็นที่แนวนอนครับเมื่อแนวคิดแล้วความเชื่อไม่ตรงกัน ความขัดแย้งย่อมเกิด ขึ้น (เหมือนการเมืองประเทศอะไรไม่รู้นะครับ)
ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากันเกิดเรื่องราวความขัดแย ้งอยู่เสมอ และในตอนนั้นเอง Uldyssian ชายหนุ่มชาวนาธรรมดาผู้ซึ่งไม่มีอะไรพิเศษใช้ชีวิตอย ู่กับพี่ชายของตนอย่าง สงบสุขไปวันๆ ถูกกล่าวว่าได้ทำการฆาตกรรมสองรายอย่างโหดเหี้ยมระหว ่างการหลบหนีและการพจญ ภัยของ Uldyssian ชายหนุ่มได้ค้นพบพลังพิเศษในตัวเอง และได้สอนให้ผู้ติดตามอีกจำนวนหลายร้อยปลดปล่อยพลังพ ิเศษออกมาพลังซึ่ง มนุษย์ไม่เคยจินตนาการถึง
พลังซึ่งครั้งหนึ่งถูกหวาดกลัวโดยเทวทูตและเหล่าปีศา จ เหล่าผู้ติดตามนั้นนับถือ Uldyssian อย่างหมดหัวใจและไร้ข้อกังขาในฐานะผู้นำและอาจารย์
หลังจากนั้น Uldyssian ค้นพบความจริงของตนเองว่า Lilith นั้นยังไม่ตายและได้เฝ้าดู Uldyssian มาโดยตลอดและได้เลือกปลดปล่อยพลังของ Uldyssian เนื่องจาก Uldyssian เป็นผู้มีความสามารถแฝงอยู่ในกายนั่นเองทำให้ Uldyssian สามารถใช้พลังได้ และ Primus ผู้นำลัทธิ Church of Triune นั้นแท้จริงแล้วก็คือ Lucion บุตรชายของ Mephisto นั่นเอง ส่วน the prophet ผู้นำแห่ง Cathedral of Light ก็คือ Inarius ในร่างมนุษย์นั่นเอง….. Uldyssian ในตอนนี้ถูกตามล่าโดยทั้งฝ่าย Church of Triune และ Cathedral of Light เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต้องการที่จะครอบครองพลังของ Uldyssian ไม่ก็พยายามที่จะทำลาย Uldyssian เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถครอบครอง Uldyssian ได้นั้นย่อมต้องเป็นผู้ชนะในสงครามระหว่างนรกและสวรร ค์อย่างแน่นอน…..
Uldyssian ได้คิดนำเหล่าผู้ติดตามเข้าทำลายลัทธิ Church of Triune โดยการช่วยเหลือลับๆของ Inarius โดยที่ Uldyssian นั้นไม่รู้หรือสงสัย Inarius นั้นต้องการฟื้นฟู Sanctuary ให้กลับสู่ยุครุ่งเรืองและตนเองจะได้เป็นใหญ่เพียงผู ้เดียวอีกครั้ง
จึงหลอกใช้ Uldyssian ให้ต่อสู้กับทั้งสอง ลัทธิใหญ่ แต่ก็มีอีกผู้หนึ่งในสงครามครั้งนี้ Lilith อดีตคนรักของ Inarius ซึ่งอดทนรอคอยมายาวนานอย่างลับๆในความมืด ได้เริ่มลงมือเพื่อ ที่จะล่อลวงและใช้ Uldyssian เป็นหมาก หมากที่จะเปลี่ยนเหล่ามนุษย์ทั้งหลายให้กลายเป็นกองท ัพแห่ง Nephalem สิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจและแม้แต่สวรรค์หรือนรกก็ต้อง หวั่นเกรง เพื่อที่จะทำให้ตัว Lilith นั้นเป็นผู้ปกครองอยู่เหนือทุกสิ่ง………..โปรดติ ดดามตอนต่อไป

บทที่ 4 การล่มสลายแห่งลัทธิมาร มังกรยักษ์ Trag’oul และ บุตรแห่ง Inarius
Uldyssian นำทัพผู้ติดตาม…ออกเดินทางสู่เมือง Toraja สถานที่ตั้งของ Church of Triune และเข้าโจมตี วิหารของลัทธิ ณ ที่นี้เอง Lilith ได้ปรากฏตัวออกมาและบอกแก่ Uldyssian ว่าต้องการให้ Uldyssian ทำลายวิหารนี้ซะ
ในตอนนั้น Rathma บุตร Lilith และ Inarius ได้ติดต่อกับ Trag’oul มังกรยักษ์ (สถานที่ตั้งบนโลกนี้นั้นอยู่บนหลังของมังกรตนนี้ คิดดูละกันว่าจะตัวใหญ่แค่ไหน 555) Rathma นั้นต้องการเข้ามามีบทบาทในสงครามครั้งนี้หลังจากหลบ ซ่อนตัวเป็นเวลานานจน Lilith และ Inarius คิดว่า Rathma ตายไปนานแล้ว Rathma จำเป็นต้องเปิดเผยตัวออกมา….(Rathma นั้นจะว่าเป็น Necromancer คนแรกก็ว่าได้และก็เป็นอาจารย์ของเหล่า Necromancer ต่อมาด้วย)
ขณะเดียวกันที่วิหาร Uldyssian ได้กลับมารวมกลุ่มกับพวกและหนีออกจากวิหาร(ตอนนี้พี่ Uldyssian จะโชว์เทพด้วยการใช้พลังหยุดวิหารที่กำลังถล่มจนเพื่ อนๆหนีออกมาได้ทั้งหมด – -“ โคตรเว่ออ่ะ ไอ้นี่มันไม่ใช่คนแล้ว) หลังจากนั้น Uldyssian จะขู่สภาอาวุโสของเมือง Toraja ว่าหากมีการก่อตั้งวิหารและลัทธิ Church of Triune ขึ้นมาใหม่ Uldyssian และพรรคพวกจะกลับมาเยี่ยม Toraja อีกครั้ง………
ขณะเดียวกัน Inarius นั้นตอนนี้ไม่เกรงกลัว สวรรค์อีกต่อไปแล้วเนื่องจากพลังแห่ง World stone และคิดกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง และถึงแม้จะรู้ถึงการกลับมาของ Rathma Inarius ก็ไม่เกรงกลัวผู้ใดอีกต่อไปไม่ว่าจะเป็น Lilith หรือ ลูกชายตนเอง
ฝ่าย Uldyssian นั้นหลังจากเสร็จศึกก็ตั้งแคมป์อยู่ที่นอกเมือง ในตอนนั้นเองชาวเมืองจำนวนมากเดินทางมาหา Uldyssian เนื่องจากต้องการเรียนรู้ในสิ่งที่ Uldyssian สอนและหวังในพลัง…..หลังจากที่ Uldyssian แน่ใจว่าผู้ติดตามกลุ่มใหม่เข้าใจในสิ่งที่ตนจะสอนอย ่างชัดเจนแล้ว เหล่าผู้ติดตามทั้งหมดของ Uldyssian ก็ตั้งชื่อใหม่ให้แก่ตนเองว่า “Edyrem” แปลว่า เหล่าผู้ได้เห็นแล้ว นั่นเอง…
ในช่วงนี้ Serenthia สมาชิกสาวของ Uldyssian ออกไปตักน้ำคนเดียวและ ถูก Lilith เข้าสิง และหลังจากนั้น Mendeln (พี่ชายของ Uldyssian ) ก็ได้พบกับ Rathma และถูก Rathma พาตัวไป….และได้พบกับ Trag’oul
Trag’oul และ Rathma เล่าเรื่องราวทั้งหมด Mendeln ฟัง ตั้งแต่การกำเนิดโลก เรื่องที่มนุษย์ก็คือบุตรหลานของ Nephalem และมีเชื้อสายมาจาก เทวทูตและปีศาจ Trag’oul บอกว่าหากเหล่าเทวทูตและปีศาจค้นพบ Sanctuary ต้องเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นบนโลกอย่างแน่นอนสงครามซ ึ่งจะทำให้ Sanctuary ถูกทำลายลงอย่างแน่นอน……..
Mendeln ได้พาตัว Uldyssian มาหา Trag’oul และ Rathma และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังแต่ Uldyssian โกรธ Rathma และคิดว่า Rathma นั้นครอบงำ Mendeln Uldyssian จึงใช้พลังของตนหนีออกมา Uldyssian มาโพล่ที่ mount Arreat (ที่ๆ World Stone อยู่ในภาค LOD) Rathma ตามมาและพา Uldyssian ไปยัง World Stone ที่นั่นเอง Uldyssian พยายามที่จะใช้ World Stone เพื่อเพิ่มพลังให้แก่เหล่าพวกพ้อง แต่ผลจบลงที่ Uldyssian ได้เปลี่ยนโครงสร้างของ World Stone ไป…….
ระหว่างการเดินทางกลับไปหา Trag’oul Uldyssian ได้รู้ว่า Inarius กำลังเดินทางไปที่ World Stone Uldyssian กลับไปหาพวกพ้องและได้เจอกับ Lilith ทั้งคู่จึงไปยัง world stone เพื่อต่อสู่กับ inarius Inarius เอาชนะทั้งคู่อย่าง่ายดาย และเข้าไปสำรวจ World Stone และได้ค้นพบว่า โครงสร้างของ World Stone ได้เปลี่ยนไปแล้วและได้บอกว่า Uldyssian ได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์แล้วตอนนี้ไม่สามารถแก้ไขอะไ รได้อีก Inarius จึงตัดสินใจที่จะทำลาย Sanctuary และค่อยสร้าง Sanctuary แห่งใหม่อีกครั้ง…….

บทที่ 5 สงครามครั้งใหญ่ของเหล่า Edyrem และ ชะตากรรมของ Lilith
หลังจากนั้น Lilith ได้พยายามที่จะเข้าครอบงำ เหล่า Edyrem โดยการล่อลวง(อ่อย) พวกพ้องคนหนึ่งของ Uldyssian ที่ชื่อ Romus ให้ทรยศ Uldyssian และก็สังหาร Romus ทิ้ง ในขณะที่ Uldyssian กำลังจะถูกสังหารและบูชายัญไปพร้อมกับเหล่าผู้ติดตาม ของ lilithเพื่อใช้ครองงำเหล่า Edyrem Archilios ก็โพล่มาช่วยเหลือ Uldyssian ไว้ได้ทัน (เอ่อ…ผมลืมเล่าถึง นาย Achilios เดี๋ยวเพื่อนจะงงว่าเป็นใคร เอาสั้นๆว่าเป็นมือธนูฝีมือร้ายกาจที่ตายไปแล้วและถู กปลุกขึ้นมาอีกครั้ง โดย Rathma เป็นถึงจะเป็นผีก็เป็นฝ่ายพระเอกนะครับ) และได้ปลดปล่อย Serenthia จากการครอบงำของ Lilith Lilith หลบหนีไป…
จากนั้น Uldyssian พยายามจะช่วยเหลือเหล่าผู้ถูกครอบงำโดย Lilith โดยการพยายามถอนคำสาปแต่ก็จำใจต้องสังหารผู้คนเหล่าน ั้นทิ้งเนื่องจาก เริ่มจะกลายร่างเป็นปีศาจและไม่สามารถช่วยเหลือได้ Uldyssian สาบานว่า Lilith ต้องชดใช้หนี้เลือดครั้งนี้ อย่างแน่นอน……….
ตัดมาที่ Rathma Mendeln และมังกร Trag’oul ทั้งสองสอน Mendeln ถึงศาสตร์ในการปลุกวิญญาณ (Necromancer คนแรกของโลกถือกำเนิด……) Mendeln ได้ปลุกวิญญาณ High Priest Malic ขึ้นมา และเสนอว่าจะล้างแค้น Lilith ให้แลกกับข้อมูลของ วิหารหลัก
ตัดมาที่เหล่า Edyrem กองทัพของ Lilith และเหล่า Edyrem เข้าทำการต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง Lilith ได้เรียก Thonos ปีศาจหนวดที่โจมตีจากใต้ดินได้เข้าทำการต่อสู้กับ Edyrem ในขณะที่เหล่า Edyrem กำลังจะเพลี้ยงพล้ำ Achilios ก็โพล่มา(อีกแล้วววว ตลอดดด) พร้อมกับลูกธนูที่ยิงไปแล้วระเบิดได้ (คุ้นๆป่าวครับ) หลังจากเห็นว่า Thonos อย่างเดียวจะเอาไม่อยู่ Lilith ก็ใช้เวทย์ปลุกเหล่าคนตายจากทั้งสองฝ่ายเข้าสังหารเห ล่า Edyrem ในขณะที่สถานการณ์กำลังย่ำแย่ Mendeln ก็โพล่มา (อีกแล้ววว) ด้วยทักษะแห่ง Necromancer เหล่ากองทัพคนตายย่อมไม่มีความหมายต่อ Mendeln พี่แกทำลายเรียบ ตอนนั้นเอง Uldyssian ได้เกิดอุบัติเหตุ Summon Lilith ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ Lilith จึงพา Uldyssian teleports ไปยังวิหารหลัก และก็มาถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่าง Lilith และ Uldyssian…..
Uldyssian สามารถเอาชนะ Lilith พร้อมกับถล่มวิหารหลักลงมา ก่อนจะทิ้ง Lilith ที่บาดเจ็บใกล้ตายไว้ ท่ามกลางวิหารที่กำลังถล่ม……
Rathma มาถึงวิหารหลักและได้พบกับ ศพของ Lilith Rathma อำลาแม่สุดที่รักของตนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากไป…. แต่ว่า….จริงๆแล้ว ที่ Rathma เห็นคือภาพลวงตาที่ Inarius สร้างขึ้น Inarius เผยตัวออกมาแน่นอนครับไม่ใช่เพราะต้องการช่วยเหลือ Lilith อย่างแน่นอน Inarius บอก Lilith ว่าตนได้เพิ่มพลังแก่ World Stone เพื่อให้เหล่า Edyrem สามารถเอาชนะ Lilith ได้ Inarius ไม่ต้องเปลืองแรงออกตามล่า Lilith ด้วยตนเอง Inarius ได้ใช้พลังกัก Lilith ไว้…. Inarius บอกแก่ Lilith ว่า Lilith ถือว่าโชคดีแล้วถ้าเทียบกับชะตากรรมที่ Uldyssian และเหล่า Edyrem จะต้องเพชิญ….ก่อนจะทำการส่ง Lilith ไปยังมิติแห่งความมืด……ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแล ะมืดมิดไปตลอดกาล …….

บทที่ 6 สงครามครั้งสุดท้าย…สัญญาของปีศาจและเทวทูต และอนาคตแห่ง Sanctuary
หลังจาก Uldyssian เอาชนะ Lilith ได้แล้ว Uldyssian ก็ต้องการเปิดสงครามกับ Inarius และเหล่า Cathedral of Light Uldyssian จึงได้เดินทางไปยัง เมือง Kehjan เพื่อขอความช่วยเหลือจากเหล่าสมาคมจอมเวทย์ ณ จุดนี้ Uldyssian มีเหล่า edyram ติดตามเกือบถึง 1000 คนแล้ว และกำลังนำเหล่าผู้ติดตามเดินทางไปยังเมือง Kehjan ระหว่างการเดินทาง Rathma ก็สอน mendeln ถึงศาสย์แห่ง Necromancer และสอนให้ Mendeln สามารถเรียกวิญญาณไว้คอยช่วยเหลือและสืบหาข่าวให้ได้
ขณะกำลังเดินทางเหล่า Edyram ได้พบกะ คณะคาราวานพ่อค้าผู้ทรงอำนาจและตัดสินใจจะอาศัยเหล่า พ่อค้าเพื่อเป็นช่องทาง ให้ได้พบกับเหล่า สมาคมจอมเวทย์ Uldyssian ตัดสินใจเดินทางไปกับเหล่าพ่อค้าเพียงลำพัง…….
ระหว่างการเดินทางคณะพ่อค้าถูกโจมตีโดยจอมเวทย์และถู กสังหารเหลือแต่ Uldyssian ที่ถูกจับและนำตัวไปยังรังลับใต้เมือง Kehjan จอมเวทย์ที่จับตัว Uldyssian ต้องการใส่ร้ายว่า Uldyssian เป็นผู้สังหารเหล่าพ่อค้า จอมเวทย์ได้ทิ้ง Uldyssian ไว้กับลูกน้องของตนและออกไปเพื่อประชุมกับเหล่าสมาคม ลูกน้องของจอมเวทย์นั้นแท้จริงแล้วก็ อสูร Malic ที่ Uldyssian คิดว่าตนได้กำจัดไปแล้วตอนเข้าโจมตี Church of Triune Malic รอดชีวิตมาได้เพราะมีเศษของ World stone อยู่จึงสามารถเข้าสิงร่างใหม่ได้ และได้ใช้ร่างใหม่ดำเนินแผนการช่วยเหลือจอมเวทย์ที่เ จ้าโจมตี Uldyssian และเพื่อให้ได้โอกาสที่ Malic จะสามารถหาร่างที่ทรงพลังได้ร่างของ Uldyssian…
จอมเวทย์ที่เข้าโจมตี Uldyssian ถูกสอบสวนโดยเหล่าผู้อาวุโสของสมาคมเนื่องจากตกเป็นผ ู้ต้องสงสัยว่ามีส่วน เกี่ยวข้องในการสังหารเหล่า พ่อค้า ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงระเบิดและตึกก็สั่นไหว เมื่อจอมเวทย์มาถึง Uldyssian ได้หายไปแล้ว ลูกน้องของจอมเวทย์ตาย และจอมเวทย์คนนั้นก็ถูก Malic เข้าสิง
Uldyssian วิ่งหนีไปตามท้องถนนและได้พบกับ เจ้าชาย Ehmad Uldyssian เล่าเรื่องทุกอย่างให้เจ้าชายฟังเชื่อคำพูดของ Uldyssian และสัญญาว่าจะหาทางให้ Uldyssian ได้พบกับเหล่าสมาคมจอมเวทย์ ในตอนนั้น Inarius ก็เริ่มแผนการให้เหล่าสาวกกระจายข่าวลือไปทั่วแผ่นดิ นว่า Uldyssian และเหล่า Edyrem ว่าเป็นต้นเหตุของความตายและเรื่องวุ่นวายทั่วแผ่นดิ น
Inarius ได้เข้าโจมตี Uldyssian ทางจิตเพื่อทำให้ Uldyssian อ่อนแอ ทั้งสองเข้าต่อสู่กันภายในจิต Uldyssian ถึงแม้จะรู้สึกตัว แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะ Inarius ได้ Uldyssian รู้สึกว่าตนเองอ่อนแอและ Inarius นั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก….. แต่ที่จริงแล้ว Inarius บาดเจ็บหนักจากการเข้าสู้กับ Uldyssian ครั้งนี้ Uldyssian นั้นเป็นมากกว่าคนธรรมดา ยิ่งใหญ่และทรงพลังยิ่งนัก มากกว่า เทวทูตหรือปีศาจตนใด…..
Inarius เริ่มเกรงกลัว Uldyssian และจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัด Uldyssian ถึงแม้ต้องแลกมาด้วย Sanctuary ก็ตาม……
ตอนนี้นั้น Trag’oul ไม่สามารถอำพราง โลก Sanctuary ต่อเหล่าเทวทูตได้อีกต่อไป… และเหล่า Edyrem ก็ได้เคลื่อนทัพไปยัง Cathedral of light ทางตอนเหนือที่ห่างไกล และเข้าต่อสู่กับเหล่าสมาชิกของ Cathedral of light ที่ Inarius ได้ให้พลังไว้ และ Inarius และ Uldyssian ก็เข้าต่อสู้กันเมื่อผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกทั้งสองห ่ำหั่นกัน ทั่วทั้งโลกก็ยังต้องสั่นสะเทือนเพราะการต่อสู้ที่ยิ ่งใหญ่ครั้งนี้…..
เมื่อการต่อสู้ใกล้จะจบลง….อันตรายใหม่ก็เข้าจู่โจ ม เหล่าเทวทูตหลายพันปรากฏกายบนท้องฟ้า……Edyrem ต่อสู้กับเหล่า เทวทูตอย่างกล้าหาญ แต่แล้ว…อันตรายสุดท้ายก็เผยตัว….ประตูนรกถูกเปิ ดและเหล่าปีศาจจากนรกก็ เข้าร่วมสงครามครั้งนี้……เหล่าปีศาจ Edyrem nephalem และเหล่า เทวทูต เข้าสู่สงครามครั้งสุดท้าย…….สงครามที่จะกำหนดอน าคตของโลก….และมี เพียงผู้เดียวที่จะหยุดสงครามครั้งนี้ได้….มนุษย์เ พียงคนเดียว
Uldyssian เอาชนะและจับตัว Inarius มาให้แก่เหล่าเทวทูตชั้นสูง ทั้ง 5 เหล่าเทวทูตทั้ง 5 ทำการโหวจเพื่อตัดสินอนาคตของ Sanctuary ผลโหวตสุดท้ายอยู่ที่ Tyreal และ Tyreal ตัดสินให้ Sanctuary คงอยู่ต่อไปและไม่ถูกทำลาย แต่จะลบความทรงจำของเหล่ามนุษย์ทิ้งทั้งหมด ตอนนั้นเอง Mephisto ก็ปรากฏตัวออกมาเพื่อยื่นข้อเสนอ….ข้อเสนอที่มิอาจ ปฏิเสธ Mephisto ให้สัญญาว่าจะไม่โจมตี Sanctuary หากมีของแลกเปลี่ยนบางอย่าง ของสิ่งนั้นคือ Inarius Mephisto ต้องการนำ Inarius กลับไปยังนรกด้วย…เหล่าเทวทูตตกลง…เมื่อ Mephisto ลาก Inarius กลับไปยังนรกที่ซึ่ง Inarius ต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดกาล สันติสุขและความสงบก็มาเยือน Sanctuary…………ชั่วคราว
(ตอนนี้จะเล่าถึง Inarius ใครไม่ชอบความรุนแรงก็อย่าอ่านนะ เหอะๆๆ Inarius ถูก Mephisto กระชากปีกทิ้ง ถูกทำลายใบหน้าอันหล่อเหลา ถูกถลกหนัง และสุดท้ายเพื่อความสะใจ Mephisto เฉือนหนังตาของ Inarius ทิ้งไม่ให้สามารถหลับตาได้ และใช้โซ่เกี่ยวตรึง Inarius ไว้หน้ากระจกขนาดใหญ่ให้มองดูใบหน้าของตนเอง และขังไว้ในChamber of mirror ไปตลอดกาล)………..

บทพิเศษ…… เทวดาตกสวรรค์ ดาบมาร ShadowFang และจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งใหม่…….
หลังจากสันติสุขใน Sanctuary กลับมาอีกครั้ง ก็เป็นที่แน่นอนครับ คราวนี้เหล่า เทวดาและปีศาจก็กลับมาดำเนินสงครามกันอีก สงครามที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น ทั้งฝ่ายนรกและ สวรรค์นั้นพยายามที่จะหาวิธีเอาชนะอีกฝ่ายให้จนได้ บนสวรรค์นั้นยังมี เทวทูตที่สำคัญอยู่อีกตนหนึ่ง ชื่อว่า Izual Izual นั้นเป็นจอมทัพและนักรบฝีมือฉกาจอีกทั้งเป็นลูกน้องค นสนิทและเพื่อนคนสำคัญ ของ Tyreal ( Tyreal นั้นถึงกับ ตีดาบขึ้นมาเองเพื่อมอบให้กับ Izual ดาบในตำนานเล่มนั้นมีขื่อว่า Azurewrath) หากใครเคยเล่น Diablo 2 คงจะคุ้นเคยกับทั้ง ดาบและ เทวทูตตนนี้นะครับ……
ไม่นานนักทางฝ่ายสวรรค์ก็ได้ข่าว ว่าทางฝั่งนรกกำลังเริ่ม ทำการตีดาบมารทรงอาณุภาพ ขึ้นมา 1 เล่ม (Shadowfang) Tyreal นั้นได้ส่ง Izual นำทัพกองทัพเทวทูตบุกไปยังนรก โดยมีเป้าหมายก็คือ หยุดยั้งการสร้าง ดาบมารเล่มนี้ Tyreal นั้นไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลร้ายมหาศ าลต่อทั้ง 3 โลก……ตามมา
Izual ผู้กล้าหาญสามารถนำทัพเข้าหยุดยั้งการสร้าง Shadowfang ก่อนจะสมบูรณ์ได้สำเร็จ (ในเกม Diablo 2 นั้น Shadowfang สามารถหาพบได้ด้วยนะครับ โดยเป็น unique item ที่มี status ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ) แต่ว่าถึงแม้จะสามารถหยุดยั้งการสร้าง Shadowfang ไว้ได้ แต่ Izual ก็ถูกเข้าโจมตีโดยเหล่าปีศาจจำนวนมหาศาลและไม่สามารถ ต่อต้านเอาไว้ได้ในที่ สุด….. Izual ก็ถูกจับกุม……….
Izual ถูกทรมานอย่างแสนสาหัสจนในที่สุด Izual ก็ต้องจำยอมบอกความลับที่สำคัญแก่เหล่า 3 จอมปีศาจความลับที่เป็นต้นกำเนิดเกม Diablo ให้เราได้เล่นกัน Izual บอกแก่ 3 จอมปีศาจว่า World Stone นั้นสามารถนำมาใช้เพิ่มพลังให้แก่ทั้ง 3 ได้ นี่คือจุดเริ่มต้นของแผนการ แผนการที่จะทำให้ Sanctuary ต้องตกอยู่ในเปลวเพลิงในสงครามระหว่าง มนุษย์และจอมปีศาจทั้งสาม……สงครามที่จะถูกกล่าวข าญไปอีกยาวนาน……
หลังจากที่ Izual ทรยศต่อสวรรค์โดยการบอกความลับแก่เหล่าจอมปีศาจแล้ว Izual ก็ถูกทอดทิ้งจากสวรรค์กลายเป็นปีศาจร้ายเฝ้าวนเวียนอ ยู่ในนรกอยู่อย่างโดด เดี่ยว ถึงแม้วิญญาณภายในจะยังเป็น Izual จอมทัพแห่งสวรรค์ดังเดิมก็ตาม ……เพราะทั้งสรรค์และเหล่าปีศาจในนรกก็ไม่ถือว่า Izual เป็นพวกเดียวกับตน……Izual วนเวียนอยู่ในนรกอย่างโดดเดี่ยวจนกระทั่ง การมาถึงของผู้กล้าจาก Diablo 2 ผู้กล้าที่จะปลดปล่อยวิญญาณจอมทัพออกจากร่างของปีศาจ ร้าย…..เพื่อความสงบ ของวิญญาณแห่งอดีตจอมทัพแห่งสวรรค์….ตลอดกาล……

บทพิเศษ สงครามของสมาคมเวทย์ และกำเนิดเหล่ามือสังหารในความมืด

กาลเวลาล่วงเลยไปบนโลกของ Sanctuary เราผู้คนใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ถึงแม้จะมีสงครามระหว่างชนเผ่า หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ แต่ก็ยังห่างไกลกับสงครามกับเหล่าปีศาจในอดีต…..
เกิดการก่อตั้งสมาคมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ในชื่อ Vizjerei เหล่า Vizjerei ศึกษาความรู้ทางด้านอาคมสายต่างๆแสวงหาพลังที่ยิ่งให ญ่รวมถึงความรู้ต่างรอบโลก Sactuary และภายในสมาคมนี้เองมี จอมเวทย์ผู้อยู่บนจุดสูงสุดอยู่สองคนทั้งสองเป็นพี่น ้องกัน หนึ่งนั้นคือ Horazon และอีกหนึ่งคือ Bartuc ……..
ทั้งสองค้นพบวิธีอัญเชิญเหล่าปีศาจมาจากขุมนรก…… .Horazon นั้นเห็นว่าควรจะกักขังเหล่าปีศาจไว้และใช้อำนาจเวทย ์เพื่อบังคับให้เหล่าปีศาจเชื่อฟัง (Mind control) แต่ว่า Bartuc นั้นเริ่มหันเข้าสู่ด้านมืดโดยการศึกษาอาคมด้านมืดขอ งเหล่าปีศาจจนในที่สุด……Bartuc ก็เข้าสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัวและเข้าเป็นส่วนหนึ่งขอ งกองทัพปีศาจแห่งนรกเพื่อให้ได้มาซึ่งพลัง…..พลังซ ึ่งในที่สุดแล้วย่อมต้องแลกมาด้วยราคาซึ่งสูงนัก…. ….
Bartuc นั้นเริ่มทรงอำนาจขึ้นเรื่อยๆ มากจนกระทั่ง เหล่าปีศาจยังต้องกลัวเกรง และในที่สุด Bartuc ก็คลุ้มคลั่งในที่สุด Bartuc กระหายเลือดเหล่ามนุษย์ และเมื่อถึงเวลาเข้าทำศึก Bartuc จะสังหารศัตรูอย่างโหดเหี้ยมก่อนจะชีกร่างศัตรูเป็นช ิ้นๆและอาบเลือดของศัตรูจนในที่สุด Bartuc ก็ได้สมญาว่า Warlord of Blood ……สมญาซี่ง เป็นที่กลัวเกรงไปทั่วทั้งสนามรบไม่ว่าจะปีศาจหรือมน ุษย์…..
ในที่สุดศึกสุดท้ายระหว่าง Horazon และ Bartuc ก็มาถึง สงครามครั้งนี้จบลงที่ชัยชนะของ Horazon และเหล่า Vizjerei Horazon แยกหัวและร่างของ Bartuc ออกจากกันก่อนจะผนึกไว้พร้อมกับเกราะของ Bartuc แต่เหล่า จอมเวทก็เสียสละชีวิตไปมากมายเหลือเกิน เหล่า Vizjerai จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก จอมเวทย์แบบ Bartuc จะต้องถูกหยุดยั้ง นี่คือจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งสมาคมลับ เหล่ามือสังหารผู้เคลื่อนไหวในความมืดคอยสอดส่องดูแล เหล่าจอมเวทย์ ชื่อที่เหล่าจอมเวทย์หวาดกลัว สมาคม Vizjaqtar หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Assasin …….
Horazon หายตัวไปไม่มีใครรู้ว่า Horazon หายตัวไปไหน รู้กันแค่ว่า Horazon ถูกตามล่าโดยเหล่าปีศาจ และ Horazon ก็ยังศึกษา อาคมควบคุมเหล่าปีศาจอยู่……….และเฝ้าสังเกตการ ณ์ Sanctuary อยู่เงียบๆ….

Tip.
1.Horazon นั้นถูกตามล่าและหนีไปซ่อนตัวภายใน arcane sanctuary ภายใต้ราชวัง ใน act 2. ของเกม diablo 2 และเมื่อ hero ไปถึงเหล่าปีศาจเข้ายึดครอง arcane ไว้หมดแล้วแต่ก็ไม่มีแม้เงาของ Horazon
ชะตากรรมของ หนึ่งในจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มิม ีผู้ใดล่วงรู้………
2. Hero class wizard ใน Diablo 1 เป็นสมาชิก Vizjerai

ปล. เนื้อเรื่องช่วงตอนพิเศษไม่ได้เรียงตาม timeline นะครับเอามาลงให้อ่านให้หายคิดถึงกันก่อน

บทที่ 7 สงครามของเหล่าปีศาจ และบัลลังค์จอมราชันแห่งนรก…ที่ว่างเปล่า
เมื่อ 3 จอมปีศาจล่วงรู้ถึงความสำคัญของ world stone และคิดตรงกันแล้วว่า world stone และ sanctuary นั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญในการได้มาซึ่งชัยชนะต่อเหล่าเ ทวทูต…..ทั้ง 3 จึงเริ่มวางแผนการ…แผนการซึ่งมีเดิมพันที่สูงยิ่ง. ..แผนการเพื่อให้ได้มาซึ่งขุมพลังอันยิ่งใหญ่…..
ถึงแม้เหล่า 3 จอมปีศาจจะมีความเห็นที่ตรงกันแต่เหล่าปีศาจชั้นปกคร องที่เหลือมิได้เห็นด้วยกับความคิดนี้…เหล่าปีศาจท ี่เหลือกลับคิดว่าควรจะพุ่งความสนใจไปกับการทำสงคราม กับเหล่าเทพมากกว่า…..และไม่นานก็เริ่มมีความคิดใน เหล่าปีศาจว่า 3 จอมปีศาจเกรงกลัวที่จะทำสงครามต่อไป….
Azmodan และ Belial เล็งเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะกำจัด 3 จอมปีศาจทิ้งและขึ้นมาปกครองนรกแทน ทั้ง2ทำสัญญาตกลงกับเหล่าปีศาจที่เหลือ…เกลี่ยวกล่ อมเหล่าปีศาจทั้งหลายว่าความหายนะของเหล่ามนุษย์นั้น มิสามารถทำให้เหล่าปีศาจเอาชนะเทวทูตได้… Azmodan และ Belial วางแผนที่จะก่อสงครามครั้งใหญ่สงครามขั้นเด็ดขาดกับเ หล่า เทวทูต….แต่ก่อนอื่นนั้นพวกเขาต้องจัดการกับ ทั้ง 3 พี่น้องจอมปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนรกเสียก่อน….. .
เหตุการณ์ครั้งนี้นำไปสู่การก่อกบฎและสงครามในนรก… สงครามระหว่างเหล่าปีศาจทั้งนรก…กับ 3 จอมปีศาจ ทั้ง 3 ต่อสู่กับเหล่ากองกำลังปีศาจมากมาย……..เป็นหายนะ ครั้งใหญ่ในนรก เหล่าปีศาจล้มตายไปจำนวนมากและสุดท้าย…น้ำน้อยก็ย่ อมแพ้ไฟ…ทั้งอ่อนแรงและไร้กำลัง…ทั้ง 3 ถูกขับไล่ไปยัง Sanctuary….และนี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะบนโลก….
Azmodan นั้นหวังให้ทั้ง 3 ติดอยู่ในโลกมนุษย์ไปตลอดกาล…และยังเชื่อด้วยว่าเม ื่อทั้ง3อยู่บนโลกแล้วเหล่าเทวทูตจะต้อง มุ่งความสนใจไปที่โลกมนุษย์ซึ่งจะทำให้การป้องกันของ สวรรค์นั้นถูกละเลยและสามารถเข้าโจมตีสวรรค์ได้ง่ายด าย…เหล่าปีศาจที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อ 3 จอมปีศาจถูกขับไล่และหลบหนีไปยังบนโลกออกตามหาเจ้านา ยของตน…
ท่ามกลางเปลวเพลิงและเศษซากจากการทำศึกกับทั้ง 3 จอมปีศาจ…..Azmodan และ Belial เริ่มถกเถียงว่าใครจะเป็นผู้ปกครองสูงสุดของนรก…ข้ อตกลงและสัญญาทั้งหมดถูกลืม…และสุดท้ายทั้งสอง…น ำกองทัพปีศาจเข้าต่อสู้กันเพื่ออำนาจสูงสุดในนรก…ส งครามในนรกเกิดขึ้นเกือบจะทันทีหลังจากสงครามครั้งแร กจบลง..แต่สงครามครั้งนี้ยังไม่มีผู้ชนะจวบจนทุกวันน ี้…บัลลังค์ของราชาแห่งนรกยังคงว่างเปล่าไร้ผู้ครอ บครอง…รอคอยเจ้าของที่แท้จริงปรากฎตัวอีกครั้ง

บทที่ 8 กำเนิดเหล่าจอมเวทย์ Horadrim..และเทวทูตทรงธรรมผู้โดดเดี่ยว
เมื่อ 3 พี่น้องถูกเนรเทศลงมายังโลก แทนที่เหล่าเทวทูตจะลงมาสนใจ Sanctuary อย่างที่ Azmodan และ Belial คาดหวัง….แต่เหตุการณ์กับไม่เป็นไปดังคาด….เหล่า เทวทูตไม่ได้คิดจะมาสนใจเหลียวแลเหล่ามนุษย์แม้แต่น้ อย…ตามข้อตกลงของเหล่าเทวทูตแล้วจะไม่มีเทวทูตตนใด ก้าวก่ายเรื่องบนโลกโดยเด็ดขาด…
แต่ว่าในความคิดของ Tyreal แล้วหากตนเองไม่ช่วยเหลือทั้งสวรรค์และโลกจะต้องพบจุ ดจบโดยน้ำมือ 3 พี่น้องแน่นอน
…Tyreal ตัดสินใจขัดคำสั่งของสวรรค์ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเห ล่ามนุษย์ โดยเป็นผู้สร้าง soul stone ที่ใช้กักขังทั้งสามพี่น้อง และ Tyreal ตัดสินใจก่อตั้งสมาคมจอมเวทย์ Horadrim โดยการรวบรวม 3 สมาคมเวทย์ใหญ่จากทางตะวันออก และมอบหมายหน้าที่ในการกักขัง 3 พี่น้องให้กับเหล่าจอมเวทย์….
การตัดสินใจช่วยเหลือมนุษย์ครั้งนี้ของ Tyreal ส่งผลให้เทวทูตผู้ทรงธรรมต้องถูกขับไล่ออกจากสวรรค์. ..(จริงๆแล้วในช่วงแรกหรือช่วงสงคราม sin war นั้น Tyreal นั้นรังเกียจและต้องการจะทำลายมนุษย์เพราะคิดว่ามนุษ ย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายเนื่องจากมีสายเลือ ดปีศาจไหลเวียนอยู่ในกายครึ่งหนึ่ง….แต่ท้ายที่สุด ในตอนจบของสงคราม Uldyssian นั้นเสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือเหล่าเพื่อนพ้อง คนที่ตนรัก และ Sanctuary ไว้ ทำให้ Tyreal เปลี่ยนทัศนะที่มีต่อมนุษย์ใหม่เพราะมีมนุษย์ผู้หนึ่ งเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ให้ Tyreal ได้เห็น)
และเนื่องจากความทรงจำของเหล่ามนุษย์ที่ถูกลบไปแล้วใ นตอนจบสงคราม sin war ทำให้ไม่มีใครล่วงรู้ถึงใบหน้าที่แท้จริงของจอมเทพอง ค์นี้….
เหล่าจอมเวทย์แห่ง Horadrim ออกตามล่า 3 พี่น้องจอมปีศาจอย่างไม่ลดละในที่สุด Mephisto ก็ถูกปราบและผนึกไว้เป็นรายแรก Soul Stone ของ Mephisto ถูกผนึกไว้ใต้วิหารแห่งแสงที่เมือง kurast โดยมีเหล่า นักบวชแห่ง Zakarum คอยดูแลรักษา..
Diablo และ Baal หนีไปทางตะวันตก จนกระทั่ง baal ไปถึงเมือง Lut gholein Baal เข้าโจมตีเมืองหลายวันติดต่อกันจนในที่สุด เหล่า Horadrim ก็ตามมาถึงและเข้าต่อสู่กับ Baal ระหว่างการต่อสู่ Baal ได้ทำลาย Soul Stone ที่จะใช้กักขังตนแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย…ก่อนจ ะถูกปราบสำเร็จ Tal rasha หนึ่งในจอมเวทย์ผู้เก่งกาจกักขัง Baal ลงใน Soul stone และพบว่า Soul Stone ชิ้นเล็กนั้นไม่สามารถกักขัง Baal ไว้ได้ Tal rasha ตัดสินใจใช้ร่างกายและวิญญาณของตนเป็นตัวช่วยผนึกวิญ ญาณ Baal ก่อนจะผนึกร่างตนไว้ใต้วิหารลับปิดผนึกและสร้างวิหาร ลวงขึ้นมาอีก 6 แห่ง รวมเป็น 7 วิหาร Tal rasha ทนทุกข์ทรมานใช้ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของตนต่อสู ้กับ Baal ภายในจิตใจตลอดกาล…
Jered cain หนึ่งในจอมเวทย์ Horadrim นำพาเหล่าจอมเวทย์ที่เหลือออกตามล่า Diablo ไปทางตะวันตก…Diablo ทิ้งปีศาจร้ายทั้งหลายไว้ขัดขวางเป็นระยะๆ จนในที่สุดในศึกใหญ่ครั้งสุดท้ายเหล่าจอมเวทย์ก็สามา รถเอาขนะ Diablo และ กักขัง Diablo ได้สำเร็จ ก่อนจะนำ Soul stone ของจอมปีศาจไปซ่อนไว้ภายในเขาวงกตขนาดใหญ่ภายใต้โบสถ ์แห่ง เมือง Tristram ……. Jered cain คอยอยู่เฝ้าดูแลเมือง Tristram สืบต่อมา……
กาลเวลาผ่านไปผู้คนลืมเลือน…เหล่าจอมเวทย์แห่ง Horadrim สูญหาย เรื่องเหล่าของ 3 จอมปีศาจร้ายแห่งนรกกลายเป็นเหมือนนิทาน ไว้ขู่เด็กดื้อให้เข้านอน….คงเหลือเพียง Horadrim คนสุดท้าย…เพียงผู้สุดท้ายที่ยังคงเก็บรักษาความรู ้เมื่อครั้งอดีตกาล….ผู้สุดท้ายของสมาคมที่ครั้งหน ึ่งเคยยิ่งใหญ่เกรียงไกร….นามนั้นคือ Deckard Cain ผู้สืบเชื้อสายของ Jered Cain …….
Next Chapter…. เหล่านักบวชผู้ถูกครอบงำ…การกลับมาของจอมปีศาจแห่ง นรก…
(ขอหยุดเนื้อเรื่องหลักไว้สักพักนะครับ ขอเล่าเรื่องราวย่อยๆให้ได้ทราบถึงความเป็นไปใน Sanctuary ก่อน)
บทพิเศษ นักบวช Zakarum ….ศาสนาแห่งแสงสว่าง….และเหล่าอัศวินแห่งแสง Paladin..
นานมาแล้ว…เทวทูตองค์หนึ่งนาม Yaerius ได้พบกับผู้บำเพ็ญศีลคนหนึ่งชื่อว่า Akarat Yaerius ได้สอนถึงหลักการและความเชื่อของศาสนาแห่งแสง Zakarum
คำสอนนี้พูดถึงหลักการการอดทนต่อสิ่งชั่วร้ายทั้งหลา ย และยึดถือยึดมั่นและอุทิศตนอย่างไร้ข้อกังขาต่อ…แส งสว่าง และแสงสว่างในจิตใจจะขับไล่สิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย Yaerius แต่งตั้งให้ Akarat เป็นตัวแทนเพื่อเผยแพร่คำสอนนี้ออกไป ศาสนาใหม่นี้เผยแพร่ต่อผู้คนธรรมดาทั่วไป และในที่สุดเหล่าผู้คนแห่งเมือง Kurast ก็รับคำสอนนี้เข้าไปในสังคม…พวกเขาส่งเหล่าผู้นับถ ือออกไปเผยแพร่คำสอน ทั่วทั้งแผ่นดิน…
ในที่สุดภายในเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งศตวรรษ Zakarum กลายเป็นลัทธิที่ทรงอำนาจทั้งทางการเมืองและทางความเ ชื่อ……ในทางตะวันออก
และเมื่อมีอำนาจทั้งทางการเงินและทางการเมืองแล้วในท ี่สุด Zakarum ก็ได้ก่อตั้งเหล่านักรบศักดิสิทธิ์ผู้ทำการต่อสู้กับ ความชั่วร้ายในนามของ แสงสว่างนี่คือการกำเนิดของเหล่า Paladin รุ่นแรก รู้จักกันในชื่อ Hand of Zakarum …. หัตย์แห่งซาคาลัม…
เมื่อในช่วงเวลานั้นย่อมไม่มีปีศาจให้เหล่านักรบไปต่ อสู้ด้วย….ความ ชั่วร้ายในความคิดของพวกเขาเหล่า Zakarum ก็คือเหล่าผู้ไม่ยอมนับถือศาสนาเช่นตน…..เหล่า Paladin ถูกส่งไปต่อสู้กับผู้อยู่ต่างศาสนานั่นเอง….
Zakarum นั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ Travincial ภายใน Kurast โดยมีวิหารแห่งแสงตั้งอยู่ตรงกลางภายในปกครองโดยเหล่ า สภาสูงแห่ง Zakarum และมีผู้ปกครองสูงสุดคือ Que-Hegan เป็นชื่อตำแหน่งสูงสุด โดยมีเหล่า paladin และ อัศวิน เป็นตำแหน่งรองลงมา……

บทพิเศษ ดินแดนแห่งแคนดูรัส อาณาจักรเกรียงไกร Westmarch และราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ Leoric
เป็นเวลาหลายปีหลังจากการหายไปของเหล่าจอมเวทย์ Horadrim ได้มีสังคมที่เจริญเติบโตเกิดขึ้นมากมายใน ดินแดนทางตะวันตก เมื่อเวลาผ่านไปเหล่านักเดินทางจากทางตะวันออกได้เริ ่มตั้งรกรากขึ้นรอบๆ พื้นที่ Khanduras ….ไม่นานก็กลายเป็นอาณาจักรขนาดเล็กที่พึ่งพาตนเองหล ายๆอาณาจักรก็เกิดขึ้น อาณาจักรเหล่านี้มีการโต้เถียงกับดินแดน Khanduras บ่อยครั้งในเรื่อง ทรัพยากรและเส้นทางการค้า การปะทะกันเล็กๆเหล่านี้ได้รบกวนสันติสุขทางตะวันตก และอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ทางตอนเหนือ Westmarch นั้นก็เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับ Khanduras เนื่องจากทั้งสองอาณาจักรนั้นมีข้อตกลงทางการค้าร่วม กันมายาวนาน
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ศาสนาเกิดใหม่ Zakarum ได้เริ่มกระจายคำสอนของศาสนาออกไปทั่วทั้งดินแดน และในที่สุดผู้คนใน Westmarch ก็รับเอาศาสนานี้เข้าไปเช่นกัน และเชื่อว่าการกระจายคำสอนเหล่านี้ออกไปเป็นภารกิจศั กดิ์สิทธิ์ที่ต้องทำตาม ในไม่ช้า Westmarch ก็ได้หันเข้าหาอาณาจักรเพื่อนบ้านเพื่อกระจายคำสอนแห ่ง Zakarum โดยคาดหวังให้อาณาจักรทั้งหลายรับเอาความเชื่อใหม่นี ้เข้าไป….ในไม่ช้า ความตึงเครียดก็เริ่มครอบงำสันติสุขอันยาวนานของสองอ าณาจักร Westmarch และ Khandurus เมื่อเหล่านักบวชแห่ง Zakarum ออกไปเทศนา ศาสนาของตนโดยไม่คำนึงว่าจะได้รับการต้อนรับหรือไม่. …
ตอนนั้นเองที่ท่าน ลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่จากทางเหนือ Leoric เข้ามาที่ดินแดน Khanduras และภายในนามของ Zakarum Leoric ตั้งตนเองขึ้นเป็นราชา Leoric นั้นอุทิศตนให้แก่ศาสนาอย่างมาก พร้อมกับนำเหล่าอัศวินและนักบวชของตนมายังดินแดน Khanduras Leoric และที่ปรึกษาคนสำคัญ Lazarus เดินทางมาถึงเมือง Tristram ( Lazarus นั้นเป็นเหมือนกับทูตที่ทาง Zakarum ส่งมาหา Leoric) และที่ Tristram นั่นเอง Leoric ได้พบกับโบสถ์โบราณของเมือง Tristram Leoric ตัดสินใจให้ที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสภาและบัลลังค์ข องตน และได้สั่งการให้มีการปรับปรุงบูรณะให้ โบส์ถ์แห่ง Tristram กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง……
ถึงแม้เหล่าผู้คนอิสระทั้งหลายแห่ง Khanduras จะไม่พอใจที่อยู่ๆก็ถูกปกครองโดยราชาจากต่างแดน Leoric ปกครองประชาชนอย่างยุติธรรมและทรงอำนาจ ในที่สุดเหล่าผู้คนแห่ง Khanduras ก็เริ่มเคารพนับถือราชาองค์นี้เนื่องจากประชาชนทั้งห ลายรู้ว่า Leoric เพียงแค่ต้องการนำพาและปกป้องพวกตนจากความมืดมิดทั้ง หลายนั่นเอง…

Chapter 9 เหล่านักบวชผู้ถูกครอบงำ…การกลับมาของจอมปีศาจแห่ง นรก…และการกำเนิดของเหล่านักรบแห่งแสง
ไม่นานนักในที่สุด Mephisto ก็สามารถเอาชนะพลังของ Soul Stone และเริ่มครอบงำเหล่านักบวชแห่ง Zakarum ในที่สุดเหล่า Zakarum ก็ตกอยู่ใต้อำนาจของ Mephisto …. แต่มีเพียงผู้เดียวที่มิได้ตกอยู่ใต้อำนาจของ Mephsito นักบวชสูงสุด หัวหน้าศาสนา Zakarum ในตอนนั้นนามว่า Khalim Mephisto จึงสั่งให้เหล่านักบวชที่เหลือฆ่าและแยกร่าง Khalim ออกนำชิ้นส่วนออกไปกระจายทั่วทั้ง Kurast …..(ก่อนที่ Hero จาก Diablo 2 จะมาตามเก็บเพื่อสร้างอาวุธไปทำลาย compelling orb และเปิดทางไปหา Mephisto
ก่อนที่ Mephisto จะสั่งให้เหล่านักบวชทำลายและแยก Soul Stone ของตนเอง ออกเป็น 7 ชิ้น 6 ชิ้น ไว้ในมือซ้ายของเหล่านักบวชขั้นสูงทั้ง 6 คน และชิ้นที่ใหญ่ที่สุดให้ Sankekur ผู้นำสูงสุดคนใหม่แทนที่ Khalim และใช้เป็นร่างของ Mephisto เอง Mephisto สั่งให้เหล่านักบวชสร้าง Compelling orb เพื่อกระจายพลังอำนาจของตนออกไปทั่วทั้ง Kurast เป็นเวลาหลายปี ที่ Mephisto ใช้เหล่านักบวชทั้งหลายเป็นฐานพลังอำนาจของตน สั่งให้มีการ บูชายัญมนุษย์ และใช้ฐานอำนาจของ Zakarum ในการหาข้อมูลข่าวสารที่ตนเองต้องการ……ในที่สุดเ จ้าแห่งความเกลียดชัง …ผู้อาวุโสแห่ง3จอมปีศาจจากนรก….กลับมาบนโลก…อ ีกครั้ง
ในช่วงเวลานี้นั้นเอง…เหล่า Hand of Zakarum (เหล่าพาลาดินของซาคาลุม) เริ่มเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆของศาสนาแห่ งแสง…พาลาดินจำนวน หนึ่งตัดสินใจ..ออกเดินทางไปยังดินแดนตะวันตก…มุ่ง สู่ Westmarch..ที่ซึ่งตนสามารถช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์โดย ไม่ตกเป็นเครื่องมือของ ผู้อื่น….เหล่าพาลาดินกลุ่มนี้เรียกตนเองว่า Knight of Westmarch ทำหน้าที่ต่อสู้กับปีศาจร้ายและเหล่าโจร ช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ เป็นเหล่านักรบแห่งแสงที่แท้จริง…(Tip. Paladin ใน Diablo 2 อยู่ในกลุ่มนี้นะครับ)
ทางด้าน Mephisto ในที่สุดก็ครอบงำเหล่านักบวชและประชาชนที่อยู่อาศัยร อบๆ วิหารแห่งแสงได้สำเร็จ…ในไม่ช้า Mephisto ได้ส่งลูกน้องที่เชื่อใจที่สุด…หัวหน้าบาทหลวง Lazarus ไปยังป่าที่ Tristam เพื่อปลดปล่อย Diablo โดยส่งไปในนามทูตจาก Zakarum ไปหาราชา Leoric ในที่สุดวิหารแห่งแสงที่เคยยิ่งใหญ่รุ่งเรืองในอดีตก ็ถูกกล่าวขานในชื่อใหม่ …วิหารแห่งความมืด…เหล่าผู้นับถือศาสนา Zakarum ที่อยู่อาศัยรอบๆตกอยู่ในความบ้าคลั่ง…ของเจ้าแห่ง ความเกลียดชัง…ตลอด กาล…

แหล่งข้อมูล : http://www.thaigaming.com/pc-game-news/34398.htm